วันศุกร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ระยะปลอดภัย

ช่วงเวลาดีๆที่เธอและฉันไม่ต้องกังวลอะไร
เป็นช่วงเวลาดีๆที่เราทั้งสองจะมีแต่ความเข้าใจ
วันนี้เป็นวันดีดี วันนี้เราควรจะทำอะไร
วันที่อะไรๆ ก็ดูจะเหมือนจะคอยเป็นใจให้กัน
วันนี้จะทำอะไร ก็ดูจะเหมือนไม่ต้องระแวงระวัง
วันนี้คือวันดีดี มีฉันและเธอคนดีเท่านั้น

* มีบรรยากาศฝนตกรถติดช่วยฉัน
ยังมีมือเปล่าว่างอยู่ ให้จับเท่านั้น
ลองดูที่แก้มฉัน เธอนั้นว่ามีอะไร
เอามือไปแตะหน้าผากว่าตัวร้อนมั๊ย
เอาเธอมากอดข้างกายไม่แบ่งใครๆ
มีเราเพียงเท่านั้น มีเธอและมีฉัน อยู่ในวันสำคัญของเรา

คิดจะเอาอะไรก็ดูจะเหมือนจะง่ายจะดายอย่างใจ
อยากได้อารมณ์อะไรจะเย็นจะร้อนจะช้าจะเร็วอย่างไร
เธอนั้นพูดมาดีดีฉันพร้อมให้เธอคนดีทุกอย่าง
อยากให้มันเป็นยังไงจะยืนจะล้มจะนั่งจะนอนอย่างไร
ปวดเนื้อเมื่อยตัวยังไงไม่นานไม่ช้าก็คงจะคลายกันไป
มีพร้อมแค่เรื่องดีๆ เธอพร้อมที่จะยินดีอีกไหม

*

ก็แค่ไม่อยากให้วันนี้ผ่านพ้นไปจะทำยังไงอยากหยุดเวลาไว้
ในวันที่มันปลอดภัย มีเธอที่เคียงข้างกาย... สองเรา

การเรียนรู้ของเด็กเล็กยิ่งใหญ่นัก

การเรียนรู้ของเด็กเล็กยิ่งใหญ่นัก



เขียนโดย มนต์ชยา
อย่างที่กล่าวแล้วว่า คุณแม่เปรียบดังวีรบุรุษคนแรกในใจลูก เขาจึงเลียนแบบทุกสิ่งที่พ่อแม่ทำหรือสอน ทำให้คุณแม่รู้สึกว่าเขาจดจำได้เร็วจนดูฉลาดเกินใคร และบางทีอาจคิดเลยเถิดไปว่าลูกมีพรสวรรค์ดังเด็กอัจฉริยะ แต่ก็มีคุณแม่หลายท่านที่ฉุกคิด และรีบปัดความคิดนั้นทิ้งเพราะกลัวคนอื่นหัวเราะเยาะ หรือย้อนกลับไปยึดติดอยู่กับความเชื่อเก่าๆ ทั้งที่การเลี้ยงดูของแม่ เป็นวิธีหนึ่งของการเจริญเติบโตทางสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ที่สร้างความฉลาดให้กับเด็กได้มากกว่าพันธุกรรมเสียอีก
Doman เชื่อว่าเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี มีความคิดที่สะอาด ว่างเปล่า จึงสามารถใส่ความรู้ให้เขาเติบโตเป็นอัจฉริยะได้ ธรรมชาติของเด็กเองปรารถนาจะเรียนรู้ทุกสิ่งในทันทีที่เขาเกิด ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ซึ่งเป็นการดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด และเจริญขึ้นเป็นคนที่มีแบบฉบับเฉพาะของตัวเอง นั้นหมายถึงมีการเปลี่ยนแปลง และเกิดขึ้นใหม่ในลักษณะเฉพาะบางอย่าง ที่สามารถส่งผ่านทางพันธุกรรม และจากการถูกขัดเกลาจากสิ่งแวดล้อมได้ ดังนั้นจึงเป็นอันตรายสำหรับเด็ก ถ้าผู้ใหญ่ไม่ให้เขาเรียนรู้ (เช่น ถ้าเขาร้องเพราะต้องการสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น หิว เปียก แล้วไม่ได้รับการตอบสนอง เขาก็จะไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาก็จะไม่มีปฏิกิริยาที่แสดงความต้องการอย่างหนึ่งอย่างใดออกมา ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับเขามาก) คุณแม่จึงไม่ควรคิดว่า การมอบความรู้ให้เด็กวัยนี้ จะเกินกว่าสมอง
ของเขาจะเรียนรู้ได้ แต่ควรคิดว่าทารกตั้งแต่แรกเกิด สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ อย่างไม่จำกัด จึงไม่ควรจำกัดขอบเขตของเขาคุณลองคุยกับเด็ก 3 ขวบ ด้วยการจ้องหน้า เพื่อบอกว่าคุณตั้งใจฟัง ถ้าเขาเริ่มวางใจคุณ เขาจะเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายถามคำถามจากคุณ มันทำให้คุณพบว่า ไม่เพียงเด็กจะคิดแต่เล่นสนุก เขายังกระหายจะเรียนรู้ ซักถามคุณหลายเรื่องเหมือนไม่มีวันหมดความสงสัย บางคำถามเป็นโจทย์ที่นักวิทยาศาสตร์กำลังให้ความสนใจค้นคว้าอยู่ ผู้ใหญ่บางคนอาจมองว่า เด็กตัวเล็ก สมองก็เล็ก น่าจะเฉลียวฉลาดน้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่ Doman เชื่อว่าไม่เสมอไป เขายกตัวอย่างการเรียนภาษาศาสตร์ ผู้ใหญ่ไม่สามารถสอนเด็กให้รู้ชื่อสิ่งของทุกชิ้นที่มีบนโลก แต่เด็กเรียนรู้ได้เองจากคำพูดของผู้ใหญ่ เช่น “อย่าเอาแว่นตาของแม่ไปเล่น เดี๋ยวแว่นตาแตก” เขาจะเข้าใจได้ว่า สิ่งนี้เรียกว่าแว่นตา การเรียนภาษาของเด็กจึงน่ามหัศจรรย์ ยิ่งกว่านั้นคือ การเรียนภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาเดิมของตน ถ้าชาวอเมริกันคนหนึ่ง แข่งเรียนภาษาอิตาลีพร้อมกันกับเด็กอายุ 18 เดือน โดยส่งไปอยู่กับคนอิตาลีคนละครอบครัว เด็กจะไม่มีครูสอนแม้แต่คนเดียว ส่วนผู้ใหญ่มีครูสอนภาษาช่วยหลายคน เวลาผ่านไป 18 เดือน ผลคือผู้ใหญ่จะพูดภาษาอิตาลีได้ดีมาก แต่เป็นสำเนียงของอเมริกัน ขณะที่เด็ก 18 เดือน ไม่มีครูสอน แต่พูดภาษาอิตาลีได้ดีแบบครอบครัวที่เขาไปอยู่ด้วย และถ้าบ้านของเด็กมีผู้ใช้ภาษาถึง 3 ภาษาเขาก็จะใช้ภาษาทั้ง 3 ได้ด้วย นั่นไม่ใช่เพราะเด็กทุกคนพร้อมที่จะเป็นอัจฉริยะทางภาษา (ทางดนตรี คณิตศาสตร์ ฯลฯ ด้วย) ถ้าเพียงแต่เขาได้รับโอกาสจากการเรียนรู้ผ่านธรรมชาติของผู้ใหญ่หรอกหรือ ?ตอนที่ Doman เป็นวัยรุ่น เขาเรียนภาษาฝรั่งเศส แต่ก็ไม่สามารถพูดฝรั่งเศสได้ซักประโยค เขานึกย้อนไปในสมัยที่เขาเป็นเด็ก ไม่เห็นเคยต้องใช้เวลาฝึกภาษาอังกฤษเลย แต่ทุกวันนี้เขาเขียนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษให้คนทั้งโลกได้อ่าน อย่างตรงไปตรงมา และเป็นจริง การเข้าใจความจริงอย่างตรงไปตรงมามักจะสวนทางกับอายุ ยิ่งอายุมาก ยิ่งเข้าใจความจริงอย่างตรงไปตรงมามากขึ้น แต่ถ้าอายุยิ่งน้อย สมองกลับยิ่งเข้าใจความจริงที่ตรงไปตรงมาได้ง่ายกว่า แถมยังจำได้แม่นยำ โดยเก็บรักษาไว้ในความทรงจำ คุณลองถามตัวเองดูว่า หลายปีมานี้คุณจำโคลงกลอนที่เพิ่งอ่านได้ซักกี่บท เมื่อเปรียบเทียบกับโคลงกลอนที่คุณจำได้ก่อนคุณอายุ 6 ขวบ คุณจะประหลาดใจว่า ช่วงเป็นเด็กคุณจำโคลงกลอนได้แม่นหลายบททีเดียว มอญซ่อนผ้า รีรีข้าวสาร จ้ำจี้มะเขือเปาะแปะ โยกเยกเอย เพราะสมองของคุณรู้จักโคลงกลอนนี้ตอนที่สมองของคุณพร้อมที่จะเรียนรู้ จึงเป็นการง่ายที่จะสอนเด็ก 2 ขวบให้เข้าใจความจริงที่ตรงไปตรงมามากกว่าสอนเด็ก 3 ขวบ และง่ายกว่าที่จะสอนให้เด็ก 1 ขวบ เข้าใจความจริงที่ตรงไปตรงมามากกว่าเด็ก 2 ขวบ และเป็นการง่ายที่จะสอนให้เด็ก 6 เดือน เข้าใจความจริงตรงไปตรงมามากกว่าเด็ก 1 ขวบ ตั้งแต่แรกเกิด สมองของเขาจะกระหายการเรียนรู้อย่างกับจรวดที่พุ่งขึ้นไปให้สูงที่สุด และจดจำความรู้นั้นได้ตลอดชีวิต ก่อให้เกิดลักษณะเฉพาะตัวไปพร้อมกับสติปัญญาที่เจริญเติบโตของเขา ที่ธรรมชาติขยายขนาดให้โตขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยเซลล์จิ๋วจำนวนมหาศาล แต่ความสามารถในการเรียนรู้อย่างแรงกล้าอย่างนี้ จะตกลงเร็วด้วยเมื่อถึงอายุ 6 ขวบ เพราะเหมือนได้พุ่งขึ้นถึงขีดของความกระหายที่จะเรียนรู้แล้ว สิ่งที่ Doman ค้นพบว่าเด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ขวบเรียนรู้ได้มีดังนี้
เป็นการง่ายที่จะสอนภาษาต่างประเทศให้เด็ก 1 ขวบกว่าสอนเด็ก 7 ขวบ เพราะการเจริญเติบโตทางร่างกายของเด็กจะช้ากว่าการเรียนรู้ผ่านการฟัง และ Doman ยังเชื่อว่า การสอนให้เด็กจำตัวอักษร จะง่ายกว่าการสอนให้เขาจำสำนวนพูด เพราะตัวอักษรหยุดนิ่งกว่า แต่สำนวนการพูดมีการเคลื่อนไหว ถ้าเขาสามารถนำตัวอักษรมาใช้ จะทำให้สมองที่อยู่ด้านหลังของเขาขยายขนาดขึ้นด้วย ซึ่งจะอธิบายวิธีการที่เขาใช้ในครั้งต่อๆ ไป
การสอนภาษาให้เด็ก 1 ขวบ ต้องเร่งเสียงชัดเจน เช่น “มานี่...มาหาแม่” เด็กจะดูจากกิริยาท่าทางของแม่ ร่วมกับการได้ยิน ไม่เพียงเท่านั้น Doman ได้คิดสอนตัวอักษรที่ให้กับเด็ก อย่างที่ไม่มีใครเคยทำ เพราะตระหนักว่า เด็กพร้อมจำและเรียนรู้ตัวอักษรได้ และเด็กทุกคนสามารถเรียนรู้ได้หลายภาษาพร้อมกันได้ดังกล่าว นักวิชาการและจิตแพทย์เด็กบางคนแย้งว่า การสอนความรู้ให้เด็กเล็ก มีแต่จะฝืน และเกิดความขัดแย้งทางจิตใจ แต่ Doman กลับเชื่อว่า เด็กจะมีความสุขกับความรู้หรือไม่อยู่ที่ใจของแม่ ถ้าแม่ไม่ชอบหรือเบื่อที่จะสอนลูกจะรู้ทันที และจะรู้สึกว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่แสนจะอึดอัด ดังนั้นถ้าคิดจะสอนลูกให้ได้ผลดี คุณต้อง...ทำให้ลูกรู้สึกว่า การเรียนเป็นเรื่องสนุกสนาน เหมือนกับการได้พบสิ่งใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นในขณะที่เรียนการเรียนเป็นของขวัญ หรือของรางวัลจากคุณไม่ใช่เป็นการลงโทษ หรือเป็นสิ่งที่ฟ้าสาปให้จำต้องทำ
การตั้งต้นสอนสิ่งต่างๆ ให้กับเด็ก ควรเป็นวิชาที่คุณชอบที่สุด เพราะคุณจะสอนวิชานั้นให้เขาได้รู้อย่างตรงไปตรงมาด้วยความจริงใจ ถ้าใจของเขารักวิชานั้นด้วย เขาจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญวิชานั้นเมื่อโตขึ้น เด็กเล็กที่ได้รับโอกาสในช่วงที่สมองเขารับง่ายกว่า จะทำให้เขาไม่รู้สึกเบื่อเลย ตัวของเขาจะค้นพบวิธีควบคุมจัดการความรู้นั้นด้วยตัวของตัวเอง ซึ่งเป็นธรรมชาติของสมอง เขาจะไม่เกิดความรู้สึกท้อถอย หมดกำลังใจ หรือความสนใจเรียน แต่จะมีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น เขาจะเข้าใจทันคำพูดของผู้ใหญ่ มีความคิดในใจ ผูกมิตรกับเด็กอื่นง่ายขึ้น เขาจะมีอิสรภาพ มีความมั่นใจในตัวเองสูง มีกิริยาท่าทางอ่อนโยน สุภาพมาก ช่วงเวลาที่คุณสอนลูก ควรมีความรู้สึกอย่างเดียวกับช่วงที่คุณจูบเขา มองดูลูกอย่างชื่นชม แต่ถ้าคุณแม่พยายามสอนลูกด้วยความรักและสนุกสนานแล้ว แต่เขาไม่สนุกด้วย จงเลิกการสอนเสีย แล้วค้นหาความผิดพลาด รีบแก้ไข และเตรียมการสอนใหม่ จัดวางสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไปให้ห่าง ปิดโทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ ผู้คน ฯลฯ เพื่อให้ลูกได้ซึมซับความรู้ที่คุณต้องการ บอกอย่างชัดเจนที่สุด เรียงลำดับความสำคัญของเรื่องที่จะสอนเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ไม่ยอกย้อนซับซ้อน
[ ที่มา...นิตยสารบันทึกคุณแม่ ปีที่ 10 พฤษภาคม 2547 ]
< ก่อนหน้า

ถัดไป >
[ ย้อนกลับ]

ดูแลลูกรัก
เตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์
ระหว่างตั้งครรภ์
แรกเกิด - 3 ขวบ
สุดรัก.คอม
หน้าแรก
ดูแลลูกรัก
เตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์
ระหว่างตั้งครรภ์
แรกเกิด - 3 ขวบ
แพ็กเก็จคลอดบุตร
บทความแนะนำ
เว็บบอร์ด
โฟโต้อัลบั้ม ใหม่
ค้นหาบทความ
เกิดอะไรขึ้นในช่วง 9 เดือนของการตั้งครรภ์
อาการเริ่มแรกของการตั้งครรภ์
โภชนาการรายสัปดาห์ของคุณแม่ตั้งครรภ์
อาการข้างเคียงจากการตั้งครรภ์และวิธีแก้ไข
กลยุทธ์พัฒนาลูก 12 เดือนแรก
เคล็ดลับ...กันแท้ง
สร้างศักยภาพสมองให้ลูก
เตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์
ตั้งครรภ์เมื่อไหร่ดี
พัฒนาการทารกแรกเกิด - เดือนที่ 3
เทคโนโลยีกับการตรวจครรภ์แบบต่างๆ
ปวดหลังระหว่างตั้งครรภ์ทำยังไงดี
แพ็กเก็จคลอดบุตรโรงพยาบาลบำรุงราษฎ์
ลูกดิ้นตลอด สาเหตุจากแม่เครียด
แพ็กเก็จคลอดบุตรโรงพบาบาลสินแพทย์
Toxic
เกมส์สนุกๆ สไตล์แอคชั่น โดยคุณต้องเก็บกู้สารเคมีที่อันตรายเพื่อช่วยโลกไว้ให้ได้ แต่ระวังให้ดีระหว่างทางจะมีเครื่องจักรมาขัดขวาง คุณต้องวางแผนก่อนวางระเบิดทุกครั้ง
Headcase
เกมส์เล่นเพลินๆที่คุณต้องรับบทเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ ใช้หมวกพุ่งชนศัตรู อุปสรรคระหว่างทางอาจไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด
Roly Poly
มาทดสอบความนิ่งของฝีมือคุณว่าจะสามารถควบคุมการหมุนถาดเพื่อจะพาเพื่อนตัวน้อยเข้าสู่เส้นชัยได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
Scribble
ฺBlots เป็นสัตว์ตัวเล็กที่ไม่ค่อยฉลาด และไม่ค่อยดูทางเวลาเดิน ดังนั้นคุณต้องต้องช่วยเจ้าตัวน้อยโดยใช้หมึกวาดเส้นทางเดินให้เจ้าตัวน้อยให้เดินทางไปยังจุดหมายได้อย่างปลอดภัย
Copyright © 2006 - 2008 sudrak.com. Joomla! is Free Software released under the GNU/GPL License.-->

/* 0)
{
if (tool_height > tool_elem.scrollHeight) {
tool_height = tool_elem.scrollHeight;
tool_done = 1;
}
} else {
if (tool_height */

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ปรารถนา เงินทอง กองท่วมฟ้า ทำการค้า ร่ำ
ปรารถนา เงินทอง กองท่วมฟ้า ทำการค้า ร่ำรวย ไปสวยสม มียศศักดิ์ รักใคร ใคร่ภิรมย์ ขอให้กลม เกลียวกัน และมั่นคงรวย ไปสวยสม มียศศักดิ์ รักใคร ใคร่ภิรมย์ ขอให้กลม เกลียวกัน และมั่นคง
คุณไม่ผิดที่ไปรักเขาคนนั้นและเขาเองก็คงไม่ผิดที่ไม่ได้รักคุณในทางตรงข้าม คุณไม่ผิดที่ไม่ได้รักเขาคนนั้นและเขาก็ไม่ผิดที่มารักคุณเช่นกันการห้ามใจไม่ให้รักนั้นยากนักแต่คงเทียบไม่ได้กับการห้ามใจให้ลืมรักเพราะย่อมยากกว่า
1. ความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมส่งเสริมความสามารถด้านการอ่าน ตามแนวการสอนภาษาแบบธรรมชาติสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 2. พฤติกรรมการอ่านของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านตาม แนวการสอนแบบธรรมชาติ สรุปได้ดังนี้ (1) พฤติกรรมที่พบบ่อยด้านการใช้หนังสือของนักเรียนส่วนใหญ่ คือ อ่านหนังสือจากหน้าซ้าย ไปหน้าขวา อ่านกวาดสายตาโดยอ่านข้อความจากซ้ายไปขวา และกวาดสายตากลับมาทางซ้าย ส่วนพฤติกรรมที่ไม่พบส่วนใหญ่ คือ การหาตอนเริ่มต้นและตอนจบของเรื่อง (2) พฤติกรรมที่พบบ่อยด้านการอ่านตัวอักษรของนักเรียนส่วนใหญ่ คือ กวาดสายตาถูกทิศทาง เมื่อมองข้อความที่คุ้นเคยและชี้ตัวอักษรในตัวพร้อมกับออกเสียงไปด้วย ส่วนพฤติกรรมที่ไม่พบส่วนใหญ่ คือ การหาคำที่มีตัวอักษรคล้ายคลึงกัน (3) พฤติกรรมที่พบบ่อยด้านความเข้าใจในสิ่งที่อ่านของนักเรียนส่วนใหญ่ คือ การเล่นเกมโดย ใช้บัตรคำที่คำคุ้นเคย และเรียงบัตรคำได้อย่างถูกต้อง
จากการศึกษาการนับของชนเผ่าชาวบราซิลเลียนกลุ่มหนึ่ง ที่ภาษาไม่ได้ระบุการนับตัวเลขที่มากกว่าสอง นักล่าจากชนเผ่า Pirahã ที่ภาษานั้นมีตัวเลขเพียงหนึ่งและสองเท่านั้น พวกเขาจึงไม่สามารถอธิบายความแตกต่างของวัตถุ 4 ชิ้นในแถวเดียวกัน หรือของ 5 ชิ้นที่มีลักษณะเหมือนกันได้ผู้เชี่ยวชาญเห็นด้วยกับผลการศึกษาที่สนับสนุนสมมุติฐานการศึกษาที่โต้แย้งกันมานาน ที่ว่า ภาษาสามารถสร้างแนวคิดของมนุษย์ได้ โดยการศึกษานี้อยู่ภายใต้ชื่อโครงการ “linguistic determinism” ตั้งแต่ในปี 1950ลิซ่า ไฟเจนสัน นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยจอน์หฮอฟคิน ในรัฐเมอร์รี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา ผู้ที่ทำการทดสอบความสามารถของเด็กในการจำแนกความแตกต่างของปริมาณตัวเลข กล่าวว่า ผลการทดสอลครั้งนี้เป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจและน่าสนใจมาก เนื่องจากสมมุติฐานนี้เป็นที่โต้แย้งกันมาอย่างยาวนานว่า ภาษานั้นสามารถสร้างแนวคิดให้กับมนุษย์ได้หรือไม่ปีเตอร์ กอร์ดอน นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในเมืองนิวยอร์คผู้ร่วมในการทำการทดลองครั้งนี้ แสดงความเห็นว่า การศึกษาครั้งนี้ไม่ได้รวมถึงความคิดทุก ๆ ด้านของมนุษย์ เนื่องจากมีความคิดบางส่วนที่เราไม่สามารถศึกษาได้ แต่สำหรับตัวเลขต่าง ๆ นั้น แสดงให้เห็นว่า ข้อจำกัดของภาษานั้นมีผล่อการรับรู้ของมนุษย์กอร์ดอนอธิบายต่อไปว่า ภาษาของ Pirahã ที่มีเพียงแค่จำนวน หนึ่ง สอง และมากกว่า เท่านั้น เพราะว่าสำหรับตัวเลขที่มีค่ามากกว่าสองนั้น พวกเขาจะใช้คำว่า “มากกว่า” ซึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเขานั้นไม่ค่อยมีความจำเป็นในการนับเลขมากนัก สำหรับรายละเอียดของการทดสอบครั้งนี้ กอร์ดอนได้สร้างงานทั้งหมด 7 ชิ้นที่แตกต่างกันขึ้นมา โดยงานที่ง่ายที่สุดนั้นคือ การจัดวางวัตถุที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น แบตเตอรี่ ตะเกียบ หรือน็อตในแนวต่าง ๆ โดยให้ชาว Pirahã วางวัตถุให้มีจำนวนเท่ากับของกองที่วางอยู่กองวัตถุที่มีจำนวนหนึ่ง สอง และสาม พวกเขาสามารถจับคู่กองวัตถุได้อย่างถูกต้อง แต่สำหรับกองวัตถุที่มีจำนวนสี่ ห้า หรือมากจนถึงสิบนั้น พวกเขาไม่สามารถจับคู่ได้อย่างถูกต้องทั้งหมด ชาว Pirahã ไม่สามารถจดจำได้ว่าในกล่องที่เขาเห็นเมื่อสักครู่ที่ผ่านมานั้นมีจำนวนปลาที่วาดไว้บนฝากล่องสี่หรือห้าตัว นอกจากนั้นหากผู้ร่วมงานของกอร์ดอนทำการกระทืบเท้าสามครั้ง ชาว Pirahã สามารถทำตามได้อย่างถูกต้อง แต่ไม่สามารถเลียนแบบเมื่อกระทืบเท้าสี่หรือห้าครั้งได้กอร์ดอนกล่าวอีกว่า การทดสอบนี้เป็นหลักฐานชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นว่าการขาดแคลนคำต่าง ๆ ทำให้จำกัดการพูดในภาษานั้นจากความเข้าใจที่มีอยู่ของผู้พูดการทดสอบเด็กและความฉลาดของสัตว์ต่าง ๆ ในห้องทดลอง เช่น หนู นกพิราบและลิงที่สามารถนับจำนวนน้อย ๆ ได้ แต่ก็ไม่สามารถแบ่งแยกจำนวนมาก ๆ ได้เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้ชี้ชัดว่า การไม่สามารถออกเสียงจำนวนได้ชัดเจนเป็นสาเหตุที่ไม่สามารถแยกแยะจำนวนมาก ๆ ได้แต่ผลของการศึกษาครั้งนี้เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญสำหรับโครงการนี้ เนื่องจาก เกี่ยวข้องกับภาษาของชาว Pirahã โดยตรง โดยไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่น กล่าวคือ พวกเขามีความเป็นผู้ใหญ่ซึ่งมีหลายปัจจัยที่แตกต่างจากเด็กและสัตว์ทดลองอย่างไรก็ตาม ไฟเจนสันได้ชี้ให้เห็นว่า สำหรับการศึกษาครั้งนี้น่าจะมีปัจจัยอื่น นอกจากภาษาแต่เพียงอย่างเดียว ที่จะแสดงให้เห็นว่าชาว Pirahã ไม่สามารถแยกแยะจำนวนมาก ๆ ได้ ซึ่งอาจรวมถึง การไม่ต้องใช้งานจำนวนมาก ๆ ในชีวิตประจำวันของพวกเขาก็ได้แรนดี้ กัลลิสเติ้ล นักจิตวิทยาจากมหาวิยาลัยรัตเจอร์ ในรัฐนิวเจอร์ซี่ ให้ความเห็นว่า จากการศึกษาครั้งนี้ ยังมีข้อโต้แย้งอยู่หลายประการด้วยกัน แต่ก็ไปหนทางที่ดีในการจุดประกายการศึกษาที่ได้ตามมา

ของฉันเอง

นางสาว สมร บุญเพิ่ม ชื่อเล่น เอ็ม
เป็นคนจังหวัดสุรินทร์ มีพี่น้อง 3คน ดิฉันเป็นคนแรก

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551